วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

นิทานเซนสมัยยามากูระ


สมัยยามากูระ นักบวชรูปหนึ่งซื่อว่าเซนกัน ก่อนที่ท่านจะได้ เข้ามาเป็นพระในนิกายเซน ท่านได้ศึกษาพุทธศาสนานิกายเห็นไดมา ก่อนเป็นเวลายาวนานถึงหกปี ท่านถึงได้เปลี่ยนมาศึกษานิกายเซนแทน ท่านศึกษานิกายเซนอยู่ในญี่ปุนอีกเจ็ดปี จากนั้นก็ข้ามน้ำข้ามทะเลไป ยังแผ่นดินจีนเพื่อศึกษานิกายเซนในประเทศจีนอีกถึงสิบสามปีแล้วจึง กลับมาจำพรรษาที่ประเทศญี่ปุน
เมื่อใครต่อใครเห็นว่าพระอาจารย์เซนกันศึกษาพระธรรมมา ยาวนาน น่าจะเป็นผู้ที่แตกฉานในพระธรรม จึงมีทั้งชาวพุทธนิกายเซน และนักบวชเดินทางมาสนทนาธรรมด้วยอยู่มิได้ขาด แต่โดยมากท่าน มักจะไม,ค่อยตอบคำถามของผู้ใดสักเท่าไหร่  บาร์โหนประกอบง่าย
วันหนึ่งมีนักบวชอาวุโสจากนิกายเห็นไดเดินทางมาขอสนทนา ธรรมด้วย
“แม้อาตมาจะออกบวชอยู่ในนิกายเห็นไดมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก แต่อาตมาก็ไม่สามารถบรรลุธรรมได้เสียที ท่านที่บรรลุตั้งแต่อายุยัง น้อยได้โปรดช่วยชี้แนะอาตมาด้วยเถิด”
“จะให้ผู้น้อยชี้แนะด้วยเรื่องอะไรกันขอรับ” อุปกรณ์ฟิตเนส
“ในพระคัมภีร์เขียนไว้ว่าไม่ว่าจะเป็นสัตว์หรือต้นไม้ใบหญ้าหาก เข้าถึงแก่นของสัจธรรม ก็สามารถตรัสรู้ได้ด้วยกันทั้งนั้น อาตมาสงสัย เหลือเกินว่าต้นหญ้าและใบไม้ตรัสรู้ได้อย่างไร”
“เพราะเหตุผลนั้นนั่นล่ะขอรับที่ทำให้พระอาจารยไม่บรรลุธรรม เสียที เพราะพระอาจารย์เอาแต่คิดเรื่องที่เปล่าประโยชน์ ต้นหญ้าและ ต้นไม้ตรัสรู้ได้หรือไม่ หากท่านทราบแล้วเกิดประโยชน์หรือไม่ขอรับ เช่น นี้แล้ว1ไม่ต่างกับการที่พระอาจารย์ถูกยิงด้วยธ^ แต่ท่านกสับมัวหาว่า ใครเป็นผู้ยิงท่าน แทนที่จะมองหาคนทีจะรักษาบาดแผลให้ตัวท่าน” ราคาบาร์โหน

คนเรามักจะไม่เคยมองว่าเรื่องที่ตนเองถกเถียงกันนั้น เป็น เรื่องที่เกิดประโยชน์หรือไม่ เรื่องที่ตนเองอยากรู้ เมื่อรู้แล้วเกิด ประโยชน์หรือไม่ หรือว่าเมื่อรู้แล้วนำเรื่องที่รับรู้มาใช้ประโยชน์ได้หรือ เปล่า สวรรค์นรกมีจริงหรือเปล่า บาปบุญหน้าตาเป็นอย่างไร ดาราคน นั้นเป็นแฟนกับดาราคนไหน ช่างเปล่าประโยชน์เหลือเกิน
ท่านเห็นว่าตนเองลามารถครองสติได้ตลอดเวลาแล้ว จึงได้ออกเผยแผ่ พระธรรมในที่สุด
หลังจากเห็นว่าตนเองยังมีข้อบกพร่องท่านเทนโนก็ปึกตนนาน ถึงหกปีก่อนที่จะออกเผยแผ่พระธรรม และเมื่อรวมระยะเวลาที่ศึกษา พระธรรมก่อนหน้านี้กับพระอาจารย์นัมอินอีกลิบปี เท่ากับท่านต้องใช้ เวลาถึงลิบหกปีที่จะปีกตนให้ลามารถครองสติได้ตลอดเวลา ที่ท่าน ต้องใช้เวลานานถึงขนาดนั้นก็เพราะท่านเห็นว่าเรื่องของสติเป็นสิ่งที่มี ความสำคัญอย่างมาก
เหมือนอย่^งที่พระอาจารย์นัมอินบอก ว่าคนเราหากสติหลุด
ลอยเพียงชัวประเดียวก็อาจสร้างหายนะให้เกิดขึนอย่างใหญ่หลวงได้ จึงควรมีสติอยู่ตลอดเวลา รู้ตนเองอยู่ตลอดเวลาว่ากำลังทำสิ่งใดอยู่ แต่ ที่เหนืออื่นใดนอกจากที่นิทานเซนเรื่องนี้มุ่งหวังในเรื่องของสติแล้ว อีก สิ่งหนึ่งที่สอดแทรกเอาไว้นั่นก็คือ คนเราต้องรู้จักสำรวจข้อบกพร่อง ของตนเอง เพื่อที่ว่าจะได้แก้ไขในข้อบกพร่องที่เกิดขึ้น


บาร์โหน








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น