วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ระบบการทำงานของร่างกายในสภาวะที่มีเหงื่อขับออกมามาก

ผสมอื่นใดเพิ่มเติมเป็นพิเศษ...???”แม้นว่าจะมีการ “จำลองสภาวะโลกดึกดำบรรพ์” ขึ้นมาในห้อง ทดลอง และทำการสังเคราะห์สารเคมีที่เป็นองค์ประกอบพื้นฐานของสิ่งมี ชีวิตฃึนมาได้บ้าง แต่การนำเอาองค์ประกอบเหล่านี้เข้าไปผสมปนเปและ จัดระเบียบให้เกิดเป็น “เซลล์” อันเป็น “หน่วยชีวิต” เริ่มแรกที่สามารถ ไล่หนูไฟฟ้า  แยกตัวมันเองออกมาจากสภาพแวดล้อม หรือมีรูปร่างเป็นตัวเป็นตน ไม่ ได้กระจัดกระจายไปกับของเหลวจนปราศจากความเป็นตัวตนที่แน่ซัด,ถัก ทอโมเลกุลแต่ละโมเลกุลจนกลายเป็น “เยื่อหุ้มเซลล์” สามารถเปิดเข้า-เปิด ออก รับเอาสิ่งที่ตัวเองต้องการและซับถ่ายสิ่งที่ตัวเองไม่ต้องการออกไป จากตัวตนของตนได้โดยอัตโนมัติ,สร้าง“ผนังเชลล์”ที่รวมเอาขึ้นส่วนที่เล็กๆ ลงไปอีกจำนวนมากที่มีความสำคัญต่อองค์ประกอบความมีชีวิตด้วยกัน ทั้งสิ้นไม่ว่า...นิวเคลียส,เยื่อหุ้มนิวเคลียส,ไลโซโซม,ไรโบโซม,ไซโตพลาสซึม, ไมโตคอนเดรืย...ฯลฯ ก่อเกิดขึ้นมาเป็น “ระบบเยื้อหุ้มภายใน” (Endomemembrane System) ทีเคลือนไหวหมุนวนเหมือนกับสายพานสำ เลียงในการขนย้ายสารอาหารเข้ามาในเซลล์,ขับถ่ายของเสียออกจาก เชลล์,ประกอบชิ้นล่วน,แยกชิ้นล่วน,และสร้างชิ้นส่วนใหม่ขึ้นมาตลอดเวลา จนกระทั้งสามารถจำลองแบบตัวเอง ก่อกำเนิดเชลล์ใหม่ๆ ที่มีรูปร่างต่างๆ เหมือนกับตัวเอง หรือถ่ายทอดพันธุกรรมสืบต่อเนื่องต่อไปได้...ฯลฯลักษณะของความเป็นเซลล์...ที่แม้กระทั้งเชลล์ซึ่งยังไม่มีความ สมธุ]รณ์มากพอที่จะถือเป็นต้นกำเนิดของสิ่งมีชีวิตได้ก็แล้วแต่ที,ต่างก็เป็น ไปในลักษณะเซ่นนี้ ถึงจะดู “มหัศจรรย์” จนแทบจินตนาการถึงภาพ “ความ บังเอิญ” ที่เป็นตัวก่ออุบัติการณ์เหล่านี้ขึ้นมาแทบไม่ได้ แต่บรรดานัก วิทยาศาสตร์จำนวนไม่น้อย ก็เพียรพยายามที่จะหาคำอธิบายนานา ชนิด,ทฤษฎีนานาชนิดที่ล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยการคาดเดา,การ สันนิษฐาน,การเทียบเคียง,การประมาณการณ์ในการคลุมๆเครือๆ  วิธีกำจัดหนู มารองรับแนวคิดเช่นนี้'ให้,1ด' และแม้นว่าคำอธิบายเหล่านี้จะถูกค้นหากันอย่าง จริงๆจังๆภายในห้องทดลอง หรือนอกห้องทดลองด้วยการบวกเอา “จินตนาการสุดขอบฟ้า” เข้าไปด้วย นำเอาวิทยาศาสตร์หลายต่อหลาย แขนงไม่ว่าฟิสิกส์,เคมี,ซีวโมเลกุล ฯลฯ เข้าไปเสริมเพิ่มเติมจนเกิดทฤษฎี นานาชนิด...แต่สุดท้ายแล้ว ก็ยังไม่มีรายใดเลยที่จะสามารถนำเอา แนวคิดตามทฤษฎีต่างๆไปทำการสร้าง “เซลล์” หรือสิ,งที่มีลักษณะคล้าย เซลล์ขั้นมาได้ หรือแม้นกระทั่งการสร้าง “เยื่อหุ้มเซลล์” ที่เป็นเพียงแค่สิง ที่สามารถทำให้ตัวตนของเชลล์แยกออกมาจากสภาวะแวดล้อม ก็ยังไมม นักวิทยาศาสตร์รายใดที่สามารถหาคำตอบ-คำอธิบายได้ถนัดๆ ว่า โดย อาศัย “ความบังเอิญ” สิ่งเหล่านี้สามารถอุบัติขึ้นมาได้อย่างไร...???แม้กระทั่ง “ฮาโรลด์ โมโรวิตซ์” ที่พยายามทุ่มเทเพื่อสร้างคำ อธิบายในแนวนี้กันอย่างเลือดตาแทบกระเด็น เพื่อจะให้เกิดภาพ จินตนาการถึง “ฟองของเหลวแบบปิด” (Closed Bubbles) หรือ “ถุง ของเหลวขนาดจิ๋ว” (Vesicles) ที่บังเอิญผุดขึ้นมาใน “สระดึกดำบรรพ์” ห่อ หุ้มโมเลกุลเล็กๆ เอาไว้จนทำให้กลายเป็นโมเลกุลขนาดใหญ่ขึ้นมาได้ แต่ ฟองของเหลวที่มี “ขั้วหนึ่งที่ไม่ชอบน้ำ” กับอีก “ขั้วหนึ่งที่ชอบน้า” หรือมี รูปร่างลักษณะแบบ “ไขมัน” (Lipids) อันจะทำให้สามารถกันตัวเองออก จากน้าในสระดึกดำบรรพ์ได้นั้น ก็ยังคงเป็นปัญหาต่อไปอีกว่ามันสามารถ สร้าง “ความเป็นไขมัน” ด้วยตัวของมันเองขึ้นมาได้ยังไงภายใต้ข้อจำกัด ของสภาวะทางฟิสิกส์และเคมีในยุคดึกดำบรรพ์ขณะนั้น...???“ฟรืตจ๊อพ คาปร้า กำจัดหนู” นักฟิสิกส์ชื่อดังผู้เคยสร้างซื่อเสียงมาจากผล งานหนังสือเรื่อง “เต๋าแห่งฟิสิกส์” เมื่อหลายสิบปีที่แล้ว ได้พยายาม รวบรวมข้อมูลการศึกษาค้นคว้าเหล่านี้เอาไว้ในหนังสือเรื่องใหม่ของเขาที่ ชื่อว่า “The Hidden Connections” โดยละเอียด และแม้นว่าในระหว่างที่ เขาพยายามหาข้อสรุปสำหรับข้อมูลเหล่านี้ เขาค่อนข้างที่จะแสดงอาการ

เครื่องไล่หนู